ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา จ่าฝูง ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ สเปอร์ส เกมนี้หากลูกทีมของ อาร์เน่อ สล็อต ไม่แพ้จะการันตีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ทันที
เปิดฉากครึ่งแรกมา นาที 12 แฟนๆ เดอะ ค็อป ต้องเงียบกันกริบหลังกลายเป็น สเปอร์ส ที่บุกมาขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางด้านขวา เจมส์ แมดดิสัน เปิดมาเข้าหัว โดมินิก โซลันกี้ โขกเข้าไปตุงตาข่าย
ผลบอล บอร์นมัธ 1-1 แมนยู (27 เม.ย. 68) : ฮอยลุนด์กู้ชีพนาทีบาป ผีแดงบุกแบ่งแต้มหวุดหวิด
ส่อย้ายทีม! บ่อนดังเปิดราคา นูนเญซ ไปซบทีมไหน หากลา ลิเวอร์พูล ซัมเมอร์นี้
สล็อต เปิดใจครั้งแรก! เผยความผิดพลาดใหญ่ที่ทำกับ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้
แต่นาที 18 ลิเวอร์พูล มาไล่ตีเสมอ 1-1 บอลจาก ซาลาห์ ไหลทะลุช่องให้ โซโบซไล หลุดเข้าไปก่อนปาดมาในกรอบ 6 หลาให้ ลุยส์ ดีอาซ ล้มตัวยิงเข้าไป ผู้ตัดสินเช็ก VAR เช็กว่าล้ำหน้าหรือไม่? ก่อนยืนยันให้เป็นประตูตีเสมอของเจ้าถิ่น
อีก 4 นาทีต่อมา แฟนบอลหงส์แดงต้องเฮเก้อหลัง โกดี คักโป ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้วแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อน
นาที 24 คราวนี้ ลิเวอร์พูล แซงขึ้นนำ สเปอร์ส 2-1 จากความผิดพลาดของ แตล ที่จ่ายบอลเข้ากลางให้ เกรย์ ก่อนโดน ไรอัน กราเฟนแบร์ค เบียดจนบอลล้นมาเข้าทางปืน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบเต็มแรงบอลพุ่งเป็นจรวดหนีมือ วิคาริโอ เข้าไปอย่างงดงาม
“เดอะ ค็อป” ได้เฮกันลั่นอีก หลัง นาที 34 หงส์แดง ทะยานนำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ โกดี คักโป แต่งบอลหนีแนวรรับสเปอร์ส ก่อนแปอัดด้วยขวาเสียบมุมเสาไกลอย่างเด็ดขาด ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง นาที 63 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูนำโด่งหนีห่าง สเปอร์ส 4-1 จากจังหวะสวนกลับเร็วของ โดมินิค โซโบซไล พาบอลควบขึ้นมาก่อนไหลออกให้ โม ซาลาห์ หักเข้าซ้ายข้างถนัดแล้วซัดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นประตูแรกในรอบ 7 เกมนับตั้งแต่ต่อสัญญาใหม่พร้อมกับนำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกที่ 28 ประตู
จากนั้น นาที 69 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดีดบอลเข้ามาในกรอบ 6 หลา เพื่อให้ ซาลาห์ แต่กลายเป็น เดสตินี อูโดกี ที่มาโดนบอลกลายเป็นทำเข้าประตูตัวเองไป
จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ สเปอร์ส 5-1 การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้ว หลังทำแต้มนำโด่งทิ้ง “ปืนใหญ่” 15 คะแนน แต้มขาดแล้วหลังเหลือโปรแกรมแข่งอีก 4 นัดเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – โดมินิค โซโบซไล, ไรอัน กราเฟนแบร์ค, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ลุยส์ ดีอาซ, โกดี คักโป
สเปอร์ส (4-3-3) : กูเยลโม่ วิคาริโอ – เจด สเปนซ์, เควิน ดานโซ่, เบน เดวิส, เดสตินี อูโดกี – ลูคัส เบิร์กวัลล์, อาร์ชี่ เกรย์, เจมส์ แมดดิสัน – เบรนแน่น จอห์นสัน, โดมินิก โซลันกี้, มาติส แตล
,
