เขาจะกลายเป็นบุคคลสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร เป็นผู้จัดการทีมหรือเฮดโค้ชที่พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม
ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาจะคิดอะไรอยู่ในหัวเมื่อถึงวันที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์จริง ๆ
เตรียมฉลองแชมป์! เกร็ดก่อนเกม ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส
วิเคราะห์บอล ลิเวอร์พูล vs สเปอร์ส (27 เม.ย. 68) : หงส์แดงลุ้นฉลองแชมป์ชนไก่พะวงยูโรปา
ลิเวอร์พูล ได้ถ้วยแชมป์เลยไหม? กางกฏแจงหงส์ชูโทรฟี่พรีเมียร์ลีกเกมไหน?
แต่ถ้าเขาเผลอคิดถึงเรื่องราวระหว่างทาง เหตุการณ์เล็ก ๆ ที่เหมือนเป็นจุดตัดสำคัญที่พาตัวเองมาถึงจุดนี้จนกลายเป็นตำนานหน้าใหม่ของสโมสรลิเวอร์พูล ก็มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะนึกย้อนไปถึงการตัดสินใจสำคัญเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน
โดยเฉพาะตอนที่จะเดินไปจับมือกับ แอนจ์ โปสเตโคกลู ที่ม้านั่งฝั่งทีมเยือนก่อนเกมเริ่ม แล้วคงอดคิดไม่ได้ว่า “ถ้าวันนั้นเลือกอีกทาง ชีวิตจะเป็นยังไง”
ย้อนไปเดือนพฤษภาคม ปี 2023 เส้นทางอาชีพของ อาร์เน่อ กับ แอนจ์ ถูกโยงมาเกี่ยวพันกันเล็กน้อย
ตอนนั้น อาร์เน่อ เพิ่งจบฤดูกาลที่สองกับการคุม เฟเยนูร์ด และพาทีมคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี่ ได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2017
อาร์เน่อ พา เฟเยนูร์ด เล่นด้วยสไตล์ฟุตบอลดุดันที่น่าตื่นตา กอปรกับบุคลิกสบาย ๆ จนทำให้เขาถูกมองว่าเป็นกุนซือดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่งในยุโรป
ขณะเดียวกัน แอนจ์ ก็กำลังลุ้นให้ซีซั่นที่สองของเขากับ เซลติก จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ
ปีแรกเขาพลิกสถานการณ์พา เซลติก คว้า ดับเบิลแชมป์ (แชมป์ลีกกับลีกคัพ)
ส่วนปีที่สองเขาพาทีมป้องกันแชมป์สองรายการนั้นได้ และเหลือแชมป์ สกอตติช คัพ ที่จะทำให้ เซลติก เป็น ทริปเปิลแชมป์ ในประเทศ
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ อาร์เน่อ กับ แอนจ์ ถือเป็นสองกุนซือที่น่าจับตาในวงการฟุตบอลยุโรป
ทั้งคู่เข้ามาคุมทีม(เฟเยนูร์ด, เซลติก) ช่วงซัมเมอร์ 2021 และเปลี่ยนโฉมหน้าของทีมจนแฟนบอลกลับมามีความหวัง ในสไตล์ฟุตบอลรุกสนุก และทำผลงานโดดเด่นในยุคที่ทีมจากลีกเล็กไม่ค่อยถูกพูดถึง
ทว่าชื่อของ อาร์เน่อ กับ แอนจ์ กลับเป็นที่รู้จักทั่ววงการฟุตบอล
ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ทีมใหญ่ ๆ จะเริ่มให้ความสนใจ โดยเฉพาะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
…
สเปอร์ส ในตอนนั้นเพิ่งผ่านฤดูกาล 2022/23 แบบกระอักกระอ่วน
พวกเขาเสียผู้อำนวยการฟุตบอลอย่าง ฟาบิโอ ปาราติซี่ เพราะโดนแบนยาว 30 เดือน แถมกุนซืออย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ก็โดนปลดจากตำแหน่งก่อนจบซีซั่น 10 นัด หลังมีปัญหากับนักเตะและบอร์ดบริหารขั้นรุนแรง
“ไก่เดือยทอง” จำต้องล้างระบบครั้งใหญ่ ซึ่งนั่นหมายถึงการเฟ้นหาผู้จัดการทีมที่จะเข้ามาปรับปรุง, สร้างอะไรใหม่ ๆ และยกเครื่องสไตล์การเล่นให้ทันสมัย
แม้กระบวนการสรรหาเริ่มต้นไม่ได้ราบรื่น เพราะไม่มี ปาราติซี่ คอยกำกับดูแลเหมือนเคย แต่ สเปอร์ส ก็เดินหน้าต่อ โดยว่าจ้างบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลจากภายนอกมาช่วยประเมินโค้ชที่มีศักยภาพให้เข้าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ
1. ด้านสไตล์การเล่น
2. ความสามารถในการพัฒนานักเตะ
และ 3. การจัดการทีมภาพรวม
ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้ เมื่อผลประเมินออกมา อาร์เน่อ และ แอนจ์ ต่างได้คะแนนสูงลิบลิ่ว
พอเข้าเดือนพฤษภาคม สเปอร์ส เริ่มคัดชื่อเหลือแค่คนที่จะเข้าสัมภาษณ์
โดยก่อนรอบแรก ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ที่ตอนนั้นเพิ่งโดน บาเยิร์น ปลด ขอถอนตัวจากกระบวนการนี้ (แต่ สเปอร์ส ยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้คิดจะสัมภาษณ์อยู่แล้ว)
รอบแรกของการสัมภาษณ์เน้นไปที่ “แนวคิดและวัฒนธรรม” ส่วนรอบสองต้องเข้าไปคุยกับ แดเนี่ยล เลวี่ ท่านประธานสโมสร ซึ่งเน้นแผนงานและวิสัยทัศน์ระยะยาวของทีม
ระหว่างเดือนนั้นเอง ชื่อของ อาร์เน่อ เริ่มกลายเป็นตัวเต็ง เพราะหลายฝ่ายมองว่าแชมป์ลีกดัตช์ มีน้ำหนักกว่าถ้วยลีกสกอตช์
และช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ความคาดหวังจากสื่อและวงในของ สเปอร์ส กับ เฟเยนูร์ด เอง ต่างก็คิดว่า อาร์เน่อ จะเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมจาก ลอนดอนเหนือ แน่ ๆ
แล้วฝั่ง เฟเยนูร์ด ก็เริ่มหาคนเข้ามาแทน โดยมีชื่อของ อันโดนี่ อีราโล่า จาก ราโย่ บาเยกาโน่ อยู่ในลิสต์
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์รองสุดท้ายของเดือน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
…
วันที่ 24 พฤษภาคม สเปอร์ส มีนัดที่จะพูดคุยกับทีมงาน อาร์เน่อ อีกครั้ง แต่จู่ ๆ วันถัดมา อาร์เน่อ ก็แถลงประกาศว่าจะอยู่ เฟเยนูร์ด ต่อ พร้อมขยายสัญญาใหม่ออกไป
“เพราะที่นี่มีระบบที่เราสร้างมาร่วมกัน มีสตาฟฟ์ที่ผมทำงานด้วยดี มีนักเตะที่เราชอบ สนามซ้อมที่ยอดเยี่ยม และสิ่งที่สำคัญคือ เราจะได้เล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช” อาร์เน่อ ให้สัมภาษณ์กับ The Athletic ในวันนั้น
“ผมรู้สึกว่าที่นี่มีโปรเจกต์ที่ยังมีความท้าทาย และผมก็อยากอยู่ทำต่อไป เพราะคุณไม่สามารถเปลี่ยนที่ทำงานหลังประสบความสำเร็จแค่ปีหรือสองปีได้ตลอดเวลา บางครั้ง คุณต้องรู้จักรักษาสิ่งดี ๆ ที่คุณมีอยู่ด้วย”
เดนนิส เตอ เคลอเซ่ ซีอีโอ เฟเยนูร์ด ทราบดีว่า อาร์เน่อ ประทับใจกับความผูกพันที่มีต่อแฟนบอลมากแค่ไหน โดยเฉพาะช่วงฉลองแชมป์ที่ศาลากลางเมืองร็อตเตอร์ดัม ที่แฟนบอลมารวมตัวกันนับพัน
“คุณจะสัมผัสได้เลยว่านี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ” เตอ เคลอเซ่ บอก
“ถ้าคุณลองมองภาพรวม และเห็นสิ่งที่คุณมีอยู่ตรงนี้ สัญญาที่ดี สตาฟฟ์คอยสนับสนุน โครงสร้างสโมสรที่มั่นคง และทีมเยาวชนที่มีคุณภาพ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะลาจากสิ่งเหล่านี้ไป”
แม้ สเปอร์ส จะยืนยันว่าพวกเขายังไม่ได้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้ อาร์เน่อ และ เฟเยนูร์ด ก็ย้ำว่าไม่มีการเจรจาระหว่างสโมสรใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จากการพูดคุยผ่านคนกลาง มันก็มากพอจะทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า อาร์เน่อ ใกล้จะย้ายไปที่นั่นเต็มที
ถึงกระนั้น สเปอร์ส ก็ไม่ได้ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ อาร์เน่อ พวกเขายังเดินหน้าสัมภาษณ์กุนซือคนต่อ ๆ ไป และเมื่อ อาร์เน่อ ถอนตัว แอนจ์ ก็ขยับขึ้นมาเป็นตัวเต็งแทน
อดีตกุนซือ โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ทำผลงานได้ดีในทุกขั้นตอนของการสัมภาษณ์ เขาเสนอแนวทางการเล่นบุกที่น่าตื่นเต้น และสื่อสารกับสาธารณชนได้อย่างน่าสนใจ
มาร์โก ซิลวา กับ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ก็มีชื่ออยู่ในลิสต์สุดท้าย แต่ท้ายสุด แอนจ์ คือคนเดียวที่ได้รับการเสนอชื่อ และหลังจากเซลติกคว้า “ทริปเปิลแชมป์” โดยชนะ อินเวอร์เนสส์ ในนัดชิงสก็อตติชคัพ วันที่ 3 มิถุนายน ทุกอย่างก็เดินหน้าอย่างรวดเร็ว และเขาก็ได้กลายเป็นกุนซือใหม่ของ สเปอร์ส
ขณะที่ แอนจ์ ก้าวเข้าสู่เวที พรีเมียร์ลีก อาร์เน่อ ก็ยังอยู่ เฟเยนูร์ด ได้ค่าเหนื่อยมหาศาลระดับประวัติศาสตร์สโมสร และมีอำนาจเต็มที่ในการสร้างทีมใหม่ และก็อย่างที่หลายคนคาดไว้ เขายังมีโอกาสครั้งใหญ่ในอนาคตแน่
ฤดูกาลนั้น อาร์เน่อ พา เฟเยนูร์ด เล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และคว้าแชมป์ดัตช์คัพ ได้อีก ก่อนที่ในที่สุด ลิเวอร์พูล จะมองเห็นสิ่งเดียวกับที่ สเปอร์ส เคยเห็นเมื่อปีก่อนหน้า แล้วครั้งนี้ อาร์เน่อ เซย์เยส
เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนั้นอย่างละเอียด ไม่ว่าจะต่อสาธารณชนหรือสื่อไหน แต่ก็คงไม่มีใครจินตนาการได้หรอกว่า หากสองปีก่อนเป็นไปแบบนั้นมันจะดีกว่าที่เกิดขึ้นในตอนนี้
“ผมไม่เคยอยากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย” อาร์เน่อ ตอบแบบนั้น หลังถูกถามเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2024 ถึงดีลกับ สเปอร์ส
“มันอาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้ ผมขอพูดแบบที่พูดไปแล้วเมื่อครั้งก่อนว่า ผมดีใจที่เลือกอยู่กับ เฟเยนูร์ด และนั่นคือทั้งหมดที่ผมอยากพูด”
Ref. The Athletic
HOSSALONSO
,
