ถ้าจะว่าไปแล้ว แม้จะมีความสุขอยู่มาก แต่ด้วยสภาวการณ์รอบตัว ต่อให้อยากจะสุขเพียงใดมันก็ยังสุขได้ไม่สุด
ภาวะโควิด-19 ทำให้ฤดูกาลไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น มันเต็มไปด้วยความอลหม่านหวาดผวา ด้วยชีวิตและความเป็นความตายคือเรื่องที่อยู่เหนือการแข่งขันทั้งปวง
“ลิเวอร์พูล” ลุ้นทาบชุดไหน? ทำเนียบ 6 ทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเร็วสุด
เรอัล มาดริด สภาพแย่กว่า!เปอตีต์ แนะ เทรนต์ ควรอยู่ ลิเวอร์พูล ต่อ
แม็ค อัลลิสเตอร์ เมินข่าวโยง เรอัล มาดริด ยันแฮปปี้สุดๆกับ ลิเวอร์พูล
มีความวิตก มีความกังวล มีความรู้สึกไม่มั่นคงในอนาคต
มีความสูญเสีย..
ในวินาทีที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซอยเท้าชูถ้วยพรีเมียร์ลีกอันโอ่อ่าขึ้นสู่ฟ้า แน่นอนครับมันคือวินาทีแห่งการปลดปล่อย เราได้แชมป์แล้ว
แต่มันจะงดงามและอลังการยิ่งกว่านั้นอีกมาก.. มากกว่ากันอีกหลายเท่าทีเดียว ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง
แดดเย็นช่วงซัมเมอร์ แฟนบอลเต็มทุกด้านของอัฒจันทร์ แผ่นป้ายเขียนข้อความถึงนักฟุตบอล ผ้าพันคอ และธงทิวปลิวไสว เสียงเพลงตะโกนก้องไม่หยุดยั้ง เพลงแล้ว.. เพลงเล่า ของนักเตะคนแล้วคนเล่า
อดีตขุนพลในชุดแดงเพลิงและผู้จัดการทีมเข้ามาอยู่ในแอนฟิลด์ มาร่วมสมทบงานคืนสู่เหย้าตามความสะดวกของแต่ละคน ร่วมยินดีกับน้อง ๆ ในวันที่การรอคอยสิ้นสุด.. 30 ปีทั้งทีงานก็ต้องเอิกเกริกกันหน่อย
พิธีมอบถ้วยแชมป์ตระการตา เวทีโอ่อ่าตั้งกลางสนาม ถ้วยพรีเมียร์ลีกเงางามยืนเด่น
โฆษกสนามประกาศชื่อนักฟุตบอลเรียงคนพร้อมเสียงเฮที่ดังสนั่นตามมาในทุก ๆ ชื่อที่ได้ยิน
แล้วมาดของแต่ละคนที่เดินออกมาก็เหลือกิน ร็อบโบอาจมาพร้อมหน้าตากวน ๆ ของเขา ดีไม่ดีนุ่งคิลต์กระโปรงลายสกอตต์ออกมาด้วย จินี่มาพร้อมแว่นดำ เอาผ้าพันคอพันสะโพก แล้วโยกเอวตามจังหวะดนตรี
น้าติ๊ปกับรอยยิ้มกว้าง ลอฟเรนออกมาอย่างยืดอกเดินผายมือกางแขน สีหน้าอิ่มเอมกับเสียงเชียร์ที่มีให้
ลัลลาน่าหยอกล้อออกมากับน้าเจมส์ เทรนต์เดินนิ่ง ๆ ยิ้มนิด ๆ ดูเก๊กหน่อย ๆ ตามสไตล์ TAA66
ดิว็อกสวมแว่นดำเดินเท่ ทั้งซีซั่นเล่นตัวจริงในลีกแค่ 7 นัดแล้วไง มหาเทพโอริกิซิอุสเล่นแค่นั้นบวกลงสำรองเบา ๆ อีก 21 เกมก็พอแล้ว Football without Origi is nothing พวกเราชาวมนุษย์ต้องระลึกไว้
ฟาน ไดค์ ก็เดินเท่ ๆ ชิลล์ ๆ ออกมาตามบุคลิก โมออกมาพร้อมรอยยิ้มอาย ๆ เหมือนเคย เช่นเดียวกับมาเน่ ที่เราต่างก็รักในความเรียบง่ายของเขา
บ๊อบบี้.. ขานี้ต้องไม่ธรรมดา เราคาดเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะมาไม้ไหน ใส่แว่นดำวิ่งออกมาแล้วกระโดดเตะ เดินปิดตา ชี้นิ้วไปที่หู ทำท่ารัวปืน หรือจะยืนนิ่งเอา 2 มือไพล่หลัง ถลกกางเกงลง หรือจะทำท่า No Look ตลอดทางเดิน แต่ที่แน่ ๆ เขาจะยิ้มฟันขาวจั๊วะแทบจะสะท้อนแดดยามเย็นกระเด็นเข้าตาเรา
เสียงเพลง Si Senor ก็ดังกระหึ่มตามระเบียบ เช่นเดียวกับเพลงของคนอื่น ๆ ที่ทุกคนในสนามต่างตะโกนร้องมอบให้อย่างสุดเสียง
และแน่นอน เมื่อโฆษกสนามประกาศชื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์.. คงไม่ต้องจินตนาการก็รู้ได้เลยว่าอารมณ์ในสนามจะพุ่งกระฉูดระดับไหน
เยอร์เก้นคงจะวิ่งออกมาอย่างกระฉับกระเฉง โบกไม้โบกมือให้เดอะค็อปทั้งสนาม ก่อนจะเอามือขวาทาบที่หน้าอก ดวงใจของผมเป็นของพวกคุณ
เสียงเพลง I’m so glad that Jurgen is a Red จะดังกระหึ่มไม่ยอมหยุด
และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน.. กัปตันของเราคือคนสุดท้าย
ณ วินาทีนั้น ทุกคนจะพร้อมกันอยู่บนเวที กอดคอหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน และมองไปที่เฮนโด้เป็นสายตาเดียว
กัปตันในเสื้อหมายเลข 14 หรือนาทีนั้นอาจเปลี่ยนไปสวมเสื้อตัวพิเศษที่สกรีนเลข 19 อยู่ด้านหลัง ค่อย ๆ เดินมาอย่างสุขุม หน้าตาผ่องใส ทรงผมเรียบแปล้
จับมือพูดคุยกับประธานในงานที่เป็นคนมอบโทรฟี่เล็กน้อย แล้วสองมือก็จับหูฝั่งละข้างของถ้วย ยกมันขึ้นมาถือ หันเดินช้า ๆ ไปยังหมู่คณะ
ห้วงเวลานั้นที่ทุกคนรอคอย มันคือภาพที่เราอยากจะเห็น เฝ้าฝันในระดับสุดปรารถนา มันมาถึงแล้ว.. 30 ปีที่รอคอยสิ้นสุดลงตรงนี้แล้ว
เฮนโด้หันหลังให้กล้อง หันหน้าหาเพื่อนร่วมทีมที่ทุกคนกำลังย่อตัวทำท่าร่ายนิ้วเหมือนกำลังเสกคาถา ส่งเสียงฮูว์ว์ว์ววว ยาว ๆ รอคอยท่าไม้ตายของยอดกัปตัน
แล้วเฮนโด้ก็ค่อย ๆ ซอยเท้า เร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น เสียงฮูว์ว์ว์ว์วววววววว ก็ดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้นจากคนทั้งสนาม
แล้วเขาก็หันกลับมา สะบัดชูถ้วยขึ้นเหนือศีรษะ แหกปากกว้างตะโกนส่งเสียงสุดปอด
เสียงพลุ เสียงระเบิดเปเปอร์ชู้ต เสียงปล่อยควันฟู่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงเชียร์ในสนาม อื้ออึ้งและอลังการ
นักเตะทุกคนกรูเข้ามาหาคนชูถ้วย กอดคอฉลองกัน กระโดดโลดเต้นกันเหมือนเด็ก ๆ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกระจายไปทั่ว
บรรยากาศในแอนฟิลด์อบอวลด้วยความสุขที่เหมือนกับจะเป็นนิรันดร์ ไม่มีอะไรทดแทนได้…
………
ภาพเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น มันอยู่ได้เพียงแค่ในจินตนาการของแต่ละคน
เป็นภาพที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์..
กระนั้น หากเรามองมันจากอีกด้านของกระจก การฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019/20 ก็เป็นการฉลองแบบ ‘แรร์ไอเท็ม’ อยู่เหมือนกัน
เป็นการฉลองแชมป์ที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีแค่ไม่กี่ทีมบนโลกใบนี้มีโอกาสฉลองอย่างนั้น
จากที่ควรจะเป็นแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ กลับเป็นการได้แชมป์ที่ช้าที่สุดในประวัติศาสตร์ มีที่ไหนได้แชมป์ลีกเอาในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
มันก็เท่ดีเหมือนกันเพราะสถิติได้แชมป์เร็วที่สุดน่ะอาจถูกทำลายได้ แต่สถิติได้แชมป์ช้าที่สุดนี้น่าจะอยู่ในข่าย – Unbeatable – ไม่มีวันถูกทำลาย
แต่ก็แน่นอนครับ งานฉลองแชมป์เมื่อปี 2020 นั้นคือ “ความตระการตาที่หายไป” และยังมีอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไปเช่นกัน
ในวันที่เดอะค็อปทั่วโลกควรจะได้สัมผัสกับมันอย่างครบถ้วน ได้มีความสุขที่สุดในทุก ๆ แง่มุม ได้กอดคอเพื่อนผอง ได้ฉลองสุดเหวี่ยง ได้โห่ร้องตะโกนกระโดดโลดเต้น ได้ตระเวณแห่ไปทั่วเมือง ให้สมกับที่ได้จบการรอคอย 30 ปี
ในวันนี้ เข้าสู่ 5 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามครรลอง คนปกติ ฤดูกาลปกติ ชีวิตปกติ ยังไม่มีวี่แววของความวุ่นวายทั้งหลายเหมือนฤดูกาล 2019/20 ที่ก่อนโควิดยังมีทั้งสงครามโลกครั้งที่สาม ทั้งอุกกาบาตจะถล่มโลก.. อะไรก็ไม่รู้
ผมหวังเพียงให้ทุกอย่างยังดำเนินไปตามปกติ ทองคำจะขึ้นจะลงช่างมัน สังคมจะดราม่าอะไรกันบ้างก็ช่างม่าง ผมขอแค่ได้เฝ้ารอวินาทีที่อยากเห็น..
วินาทีที่อยากเห็น.. เริ่มจากวันอาทิตย์นี้ ที่จะได้สัมผัสกับความรู้สึกว่าเกมนี้เล่นเพื่อเป็นแชมป์
ลงสนามไปเพื่อเก็บผลที่ต้องการ ลิเวอร์พูลขอแค่ไม่แพ้สเปอร์สผู้มาเยือนก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2024/25
นี่คือสิ่งแรกที่อยากเห็น เหมือนที่เขียนไปเมื่อ 2 วันก่อน..
————–
“และถ้าโชคดี เมื่อเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายทีมอาจกำลังนำอยู่
จะกี่ประตูก็เถอะ แต่เรากำลังนำอยู่ และเรากำลังจะเป็นแชมป์
ผมอยากเห็นบรรยากาศอย่างนั้น
ผมอยากเห็นอารมณ์ของการนับถอยหลังเฝ้ารอเสียงนกหวีดสุดท้ายที่ปรารถนา.. มันจะเป็นเสียงนกหวีดที่หวานฉ่ำที่สุดของฤดูกาล
ผมอยากเห็นกล้อนแพนไปจับบรรดาผู้เล่นตัวสำรองข้างสนาม ซึ่งนาทีนั้นจะไม่มีใครนั่งอยู่ในคอกกันแล้ว
ทุกคนจะออกมายืนออกันจนแทบจะล้นเข้าไปในพื้นที่โค้ช หน้าตาแต่ละคนดูก็รู้ว่ากำลังหื่นกระหายใจจดใจจ่อรอคอยเสียงนกหวีดจากกรรมการอย่างโคตรจะกระสับกระส่ายเลย
“จารย์.. เป่าได้แล้ว จาน.. จ๊านนน”
แล้วผมก็อยากเห็นวินาทีนั้น..
วินาทีที่ผู้ตัดสินชูมือขึ้นฟ้า เป่านกหวีดจบเกม
วินาทีที่ทุกอย่างถูกปลดปล่อย
วินาทีที่เราเป็นแชมป์
แล้วหูของทุกคนก็จะอื้ออึงไปด้วยเสียงโห่ร้องกึกก้องกัมปนาท น้ำตาอาจคลอเบ้าขึ้นมาทันทีกับภาพที่เห็น
ลองจินตนาการดูสิครับ.. ลองจินตนาการไปด้วยกันดู
พลันที่เสียงนกหวีดจบเกมดังขึ้น นักเตะในสนามก็วิ่งกอดกันกลม หันไปเจอใครก็โผเข้าใส่ไว้ก่อน แล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันล้มกลิ้งล้มหงาย
เสียงตะโกนใส่กันฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความได้บางประโยคว่า “พวกเราทำได้แล้ว!”
บางคนแหงนหน้าขึ้นฟ้า บางคนอาจทรุดลงฟุบกับผืนหญ้า แล้วร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร น้ำตาแห่งความปีติภูมิใจพรั่งพรู
ผู้เล่นสำรองและเหล่าสตาฟฟ์โค้ชวิ่งกรูกันลงไปในสนามเหมือนผึ้งแตกรัง กระจัดกระจายกันไปหาเป้าหมายที่อยู่ใกล้ที่สุดตามแต่ทิศทางของแต่ละคน
ใครเป็นใครไม่รู้กันแล้ว กระโดดกอดล็อกตัวเอาไว้ก่อน แล้วแหกปากดีใจสุดเสียงไปด้วยกัน
แล้วกล้องก็จะจับไปที่ อาร์เน่อ เขาจะทำหน้าอย่างไรกันนะ จะแค่แย้มน้อย ๆ หรือฉีกยิ้มกว้าง แต่ที่แน่ ๆ ฉากหลังที่เป็นอัฒจันทร์แห่งแอนฟิลด์จะมีชีวิตชีวาอย่างอลังการ
วินาทีนั้นเดอะค็อปที่ได้เห็นหน้าของเขาผ่านจอทีวีก็อาจจะยิ่งรักเขาขึ้นไปอีก เปิดใจรับเขามากขึ้น.. อาร์เน่อ ปีแรกของคุณมันช่างมหัศจรรย์จริง ๆ
ภาพจากกล้องตัวแล้วตัวเล่ารอบสนามถูกโปรดิวเซอร์เลือกดึงมาออกอากาศ มันคือขุมทรัพย์แห่งความสุขเชียวล่ะ
กองเชียร์แหกปากตะโกนสุดเสียง กวัดแกว่งผ้าพันคอ กระโดดกระทืบเท้าจนอัฒจันทร์สะเทือน
ธงทิวปลิวไสว ผืนผ้าโบกสะบัด สีสันจัดจ้านกลางแดดยามเย็นแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์
แอนฟิลด์ที่มีเสน่ห์อยู่แล้วก็จะยิ่งงดงามขึ้นไปอีก ยามนั้นไม่เพียงมีผู้คนมากมายบนอัฒจันทร์ที่กำลังกอดคอกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หากบรรยากาศในสนามยังพุ่งกระฉูดถึงขีดสุด
มันจะเป็นห้วงเวลาแห่งความทรงจำ แอนฟิลด์อบอวลไปด้วยความสมหวัง ความสุขสันต์ และความฝันที่กลายเป็นจริง
28 เมษายน 1990 คือครั้งล่าสุดที่เดอะค็อปได้สัมผัสกับมัน..
ได้มีบรรยากาศแบบที่ “เกมนี้ชนะเพื่อเป็นแชมป์”
ได้ร้อนรนกระสับกระส่ายรอฟังเสียงนกหวีดหมดเวลาจากผู้ตัดสิน
ได้ฉลองวินาทีแห่งความสุขในแอนฟิลด์..
เอียน รัช กับ จอห์น บาร์นส์ ยิงคนละประตูพาทีมพิชิต ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 2-1 คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 18 ตั้งแต่ฤดูกาลยังเหลืออีก 2 เกม
เดอะค็อปหลายล้านชีวิตไม่เคยได้สัมผัสมัน กระทั่งอีกหลายคนที่แม้จะเกิดร่วมสมัยก็ยังเลือน ๆ ไปแล้วว่าความรู้สึกในวินาทีนั้นเป็นอย่างไร
เพราะมันก็ผ่านมา 35 ปีเข้าไปแล้ว..
แน่นอนครับ การได้แชมป์นั้นจะอย่างไรย่อมมีคุณค่าเสมอ และก็แน่นอนอีกเช่นกัน คู่ต่อสู้จะเป็นทีมไหนเราไม่ควรลืมที่จะให้เกียรติพวกเขา
มันคงจะเป็นแค่ความปรารถนาส่วนตัวที่ดูจะเรื่องเยอะอยู่สักหน่อยนะครับ แต่แค่จินตนาการถึงวันนั้นว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริง ผมก็ยังหยุดยิ้มไม่ได้เลย..”
————–
วันอาทิตย์นี้ จะเป็นอย่างไรกันนะ..
มันจะเกิดภาพเหล่านี้ไหม สเปอร์สจะบุกมาพังงานถึงแอนฟิลด์หรือเปล่า
ไม่มีใครรู้
แต่ที่แน่ ๆ ในวันสุดท้ายของฤดูกาล อาทิตย์ที่ 25 พ.ค. ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ
90 นาทีของเกมจะไม่สำคัญเท่าช่วงเวลาหลังจบเกม การเตรียมสถานที่ เตรียมพิธีการ บรรยากาศของการรอคอยงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่จะแตกต่างออกไป
จากงานที่ไม่มีใคร สู่งานที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้คน อารมณ์ร่วมเกินร้อย ในสนาม นอกสนาม เมืองลิเวอร์พูล และทั่วโลก
มันจะไม่ได้เป็นการรับแชมป์ที่เหมือนกับเมื่อ 5 ปีที่แล้วอีกแล้ว
ปมในใจต่าง ๆ กำลังจะกลายเป็นอดีต แชมป์พรีเมียร์ลีก 2024/25 นี้จะเยียวยาบาดแผลเหล่านั้นเองถ้าหากใครจะมี และงานฉลองแบบ “ลิมิเต็ดอีดิชั่น” ครั้งนั้นจะถูกมองด้วยความผ่อนคลายมากขึ้น ภูมิใจได้ด้วยว่ามันเป็นงานฉลองที่ไม่เหมือนใคร
ลิเวอร์พูลกำลังจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยินดีกับเดอะค็อปทุกคนด้วยครับ
#อีกแต้มเดียว #แชมป์พรีเมียร์ลีก
-ตังกุย-
,